คงไม่เคยมีหนังสือเล่มใดที่บิดเบือนความจริงมากไปกว่าหนังสือวิวรณ์ สำหรับผู้อ่านทั่วไป หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือลึกลับมาก แต่ถึงแม้จะมีลักษณะลึกลับ แต่ก็ยังคงสื่อถึงความสำคัญอย่างลึกซึ้งและคำเตือนอย่างเร่งด่วนได้อย่างชัดเจน! น่าเศร้า หลายคนพยายามใช้ประโยชน์จากธรรมชาติที่ "ลึกลับ" เพื่อใช้ประโยชน์จากมันให้เป็นประโยชน์ โดยการดึงความสนใจมาที่ตัวเองและโดยการทำเงินจำนวนมากจากความอยากรู้อยากเห็นและความกลัวของผู้คน
แม้ว่าจะเป็นหนังสือที่มีความหมายลึกซึ้งทางวิญญาณมากมาย แต่พระเจ้าพระเยซูคริสต์ทรงประสงค์ให้ทุกคนรับและเข้าใจ - เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงประสงค์ให้ทุกคนสามารถละทิ้งบาปและรับความรอด ขั้นตอนแรกในการรับข่าวสารคือต้องมีจิตใจที่ถ่อมตัวและแตกสลาย ไม่ว่าจะศึกษาสักเท่าไร ผู้มีปัญญาในตนเองจะไม่มีวันได้รับมัน คนที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างดื้อรั้นจะไม่มีวันเข้าใกล้ความหมายที่แท้จริงของมัน และจิตใจที่เคร่งศาสนาแต่ยังคงบาปอยู่นั้นอยู่ห่างไกลจากความเข้าใจใด ๆ อย่างยิ่ง
พระเยซูตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา พระเจ้าแห่งสวรรค์และโลก ข้าพระองค์ขอบพระทัยพระองค์ที่ทรงซ่อนสิ่งเหล่านี้จากผู้มีปัญญาและหยั่งรู้ และได้ทรงสำแดงสิ่งเหล่านี้แก่ทารก พระบิดาก็เป็นเช่นนั้น เพราะเห็นว่าดีในสายพระเนตรของพระองค์ พระบิดาของเรามอบสิ่งสารพัดให้แก่เรา ไม่มีใครรู้ว่าพระบุตรเป็นใครนอกจากพระบิดา และใครคือพระบิดา แต่พระบุตร และผู้ที่พระบุตรจะทรงสำแดงให้ทราบ” (ลูกา 10:21-22)
เห็นได้ชัดว่าเป็นการเปิดเผยของพระเยซู คุณต้องได้รับมันจากเขาและอย่าเข้าหาเขาเพื่อทำความเข้าใจในแบบที่คุณต้องการ!
ในพระธรรมวิวรณ์ข้อแรก พระเยซูทรงบอกให้ผู้รับใช้ของพระองค์ส่งข้อความถึงผู้รับใช้ของพระองค์ มันส่งถึงผู้ที่มีหัวใจเป็นทาสเท่านั้น คุณเข้าใจความหมายของการเป็นบ่าวหรือไม่? อย่าด่วนตอบคำถามนี้ เพราะเป็นสิ่งที่คุณต้องสัมผัสและมีชีวิตอยู่เพื่อทำความเข้าใจ มีเพียงไม่กี่คนในสมัยนี้ที่รู้จริงๆ ว่าการมีคนอื่นเป็นเจ้าของทั้งหมดหมายความว่าอย่างไร และทำตามคำสั่งของเจ้านายของคุณก่อน ต่อหน้าของคุณเอง และการดำเนินการนี้ต่อไป การเป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์คือการเป็นผู้รับใช้จากหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรัก เต็มใจ และเชื่อฟัง
แต่อย่าท้อแท้หากท่านยังไม่เป็นผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อของพระองค์ กว่า 40 ปีที่แล้ว ฉันก็ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองเช่นกัน แม้ว่าฉันจะเคร่งศาสนาก็ตาม แต่ใจของข้าพเจ้าแสวงหาอย่างจริงใจในวิธีที่ต่ำต้อยที่สุดที่ข้าพเจ้ารู้ ดังนั้นพระเยซูจึงทรงเมตตาข้าพเจ้า และทรงเปิดเผยความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อข้าพเจ้ามากพอจนข้าพเจ้าอาจละทิ้งวิถีทางของข้าพเจ้าและขออภัยโทษ นี่เป็นก้าวแรกสู่ “การเปิดเผยของพระเยซูคริสต์!”